เครื่อง ติดตาม ประโยชน์ของ GPS รูปแบบของการใช้งาน GPS ซึ่งระบบ GPS ที่เข้ามามีบทบาทในส่วนสายงานขนส่ง โลจิสติกส์ ทำให้การควบคุมงาน และการจัดการกองยานพาหนะ รึที่เรียกว่า Fleet Management นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะ ประโยชน์ของ GPS จะช่วยให้การจัดการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ ยกตัวอย่าง เครื่อง ติดตาม เช่น การประเมินคุณภาพของพนักงานขับรถ การติดตามเส้นทาง การเดินทางย้อนหลัง หรือแบบ Real Time การติดตามความเร็ว นั้นเป็นส่วนที่จะช่วยประเมินการทำงานของผู้ขับรถได้ 8 เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการ GTS ติด GPS รถยนต์ ประสบการณ์มากกว่า 8 ปี
gps ติดรถ จำเป็นหรือไม่ ติดตั้ง GPS ติดตามรถขนส่ง ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง หลายคนคงจะทราบกันดีเลยครับว่า GPS Tracker หรือ gps ติดรถ สามารถทำอะไรได้บ้าง ด้วยที่โลกและเส้นทางที่กว้างใหญ่ การที่จะหาใครสักคน หรือหาสิ่งของต่างๆ จึงเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเรา ทำให้ GPS จึงมีบททาทสำคัญที่จะค้นหาตำแหน่ง โดยเฉพาะการเดินทางที่ไหนไกลๆ GPS ก็สามารถนำทางให้ได้ มีความแม่นยำมาก และมีความสะดวกรวดเร็ว ทำไมเราต้องติด GPS ให้กับรถบรรทุกด้วย? เหตุผลเพราะ ? . 1) กฎหมายกำหนด กรมการขนส่งทางบก ประกาศต่อภาษีให้กับรถบรรทุกที่ติดตั้ง GPS Tracker เท่านั้น
ระบบ GPS การทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์นอกจากเรื่องของการเอาใจใส่เกี่ยวกับระบบการขนส่งสินค้า ระบบ GPS ขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำงานแล้ว เทคโนโลยีก็เป็นอีกเรื่องที่ขาดไปไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ระบบ GPS กลายเป็นระบบที่เหมาะสมกับการทำงานในด้านนี้อย่างมาก ผู้ประกอบการโลจิสติกส์หลาย ๆ รายเริ่มให้ความใส่ใจมากขึ้นกว่าเดิม แต่เชื่อว่าก็มีอีกไม่น้อยที่ยังสงสัยถึงความคุ้มค่าในการติดตั้ง GPS ไปใช้ จึงมาดูเหตุผลที่ระบบ GPS (จีพีเอสติดตาม) จะช่วยยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นได้อย่างไร 1. มีระบบการตรวจสอบทันสมัย รับรู้ได้แบบ Real-time – เนื่องจากระบบ GPS สามารถติดตามยานพาหนะได้ตลอด 24 ชม. จึงทำให้ผู้ประกอบการหรือผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ทุกอย่างว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เช่น ตำแหน่งของรถอยู่ที่ไหน ขับตามเส้นทางที่ระบุหรือไม่ มีการจอดพักที่จุดใดเป็นระยะเวลานานเท่าใด ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพให้กับธุรกิจมากขึ้น
GPS ติดตาม สิ่งสำคัญในภาคธุรกิจโลจิสติกส์ คงหนีไม่พ้นเรื่องของการลดค่าใช้จ่าย GPS ติดตาม ในการขนส่ง การลดระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่ง และลดปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้โดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด และหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ภาคธุรกิจโลจิติกส์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งก็คือ GPS สำหรับติดตามรถส่งของ รถขนส่ง ต่างๆ ในบทความนี้ Genius GPS มีบทความดีๆ เกี่ยวกับ 4 ประโยชน์ของระบบ GPS ที่จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการให้บริการ ให้กับธุรกิจโลจิสติกส์มาให้ทุกท่านๆ ได้อ่านกันค่ะ 1. ลดต้นทุนค่าน้ำมัน แน่นอนว่า ต้นทุนพลังงานที่สำคัญที่สุด สำหรับการขนส่งของธุรกิจโลจิสติกส์ ก็คือค่าน้ำมันนั่นเอง ระบบ GPS โดยทั่วไปนั้น ก็จะมีระบบติดตามเส้นทาง ซึ่งก็จะสามารถช่วยให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการขนส่งได้ ป้องกันการขับรถออกนอกเส้นทาง รวมถึงระบบตรวจวัดอัตราเร็ว
ส่งสินค้าล่าช้าแถมยังโดนลูกค้าปรับอีก ใครเป็นแบบนี้ ยกมือขึ้น GPS Trackingติดรถ GPS Trackingติดรถ หลายคนคงทราบดีว่าระบบ GPS Tracking นั้นมีความจำเป็นต่อธุรกิจโลจิสติกส์อย่างไร ทำไมบรรดาธุรกิจโลจิสติกส์จึงจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเพื่อใช้งานก่อนที่กฎหมายจะเข้ามาบังคับใช้ นั่นเพราะระบบ GPS Tracking สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านขนส่งและสร้างศักยภาพในการแข่งขันได้อย่างดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนไม่ทราบนั่นก็คือผลทางอ้อมที่ทำให้ลูกค้าของบริษัทผู้ประกอบการโลจิสติกส์เหล่านี้เลือกใช้บริการนั่นคือ “ความไว้วางใจ” นั่นเอง เหตุใด GPS Tracking ติดรถ จึงสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้ นั่นเพราะระบบสามารถที่จะออกแบบและคำนวณระยะทาง เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องและตรงเวลา ในขณะที่ลูกค้าสามารถที่จะตรวจเช็คสถานะของยานพาหนะและพนักงานขนส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชันหรือผ่านเว็บบราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ นอกจากนี้ทาง Genius GPS ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษ คือ มีระบบแจ้งเตือนผ่าน line ตลอดเส้นทางการเดินรถ
จากนโยบายที่ต้องการจะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้กับผู้ขับขี่ยานพาหนะประเภทรถบรรทุก กระทรวงคมนาคมจึงได้มีมาตรการบังคับใช้ให้รถบรรทุกในประเภทขนส่งส่วนบุคคล (ป้ายขาว) ที่มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องติดตั้ง GPS ทุกคันภายในปี 2652 ทาง Genius GPS จึงได้สรุปประเภทและลักษณะของรถที่เข้าข่ายมาฝากค่ะ 1. รถบรรทุกสิบล้อ สิบสองล้อ หัวลากสิบล้อ และ หัวลากหกล้อ ขนส่งไม่ประจำทาง (ป้ายเหลือง) และ ขนส่งส่วนบุคคล (ป้ายขาว) ที่มีการจดทะเบียนตั้งแต่ 25 มกราคม 2559 เป็นต้นไป จะต้องติดตั้ง GPS พร้อมเครื่องรูดบัตร และเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมขนส่งทางบกก่อนตรวจสภาพเพื่อจดทะเบียน 2. รถบรรทุกสิบล้อ สิบสองล้อ หัวลากสิบล้อ และ หัวลากหกล้อ
แผนที่และการนำทางแบบดิจิตอลอาศัยการทำงานของระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) เพราะระบบนี้ง่ายต่อการใช้งาน มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือได้ อย่างไรก็ตามบางครั้งสัญญาณ GPS ก็ถูกลดทอนประสิทธิภาพลงเนื่องจากความผิดพลาดต่าง ๆ นานาหรือการถูกรบกวน ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้ปัจจัยที่อาจนำไปสู่ความผิดพลาด ดูข้อปฏิบัติในการติด GPS รถยนต์อย่างเหมาะสมและการซ่อมอุปกรณ์ GPS Tracking ติดรถเมื่อได้ทราบข้อแนะนำแล้ว การแก้ปัญหาแผนที่ในจีพีเอสติดตามก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ในบทความนี้เราได้รวบรวมทิปที่มีประโยชน์สำหรับการแก้ปัญหาแผนที่ของเครื่องจีพีเอสติดรถยนต์ และเรายังระบุสถานการณ์ตัวอย่างเพื่อการอธิบายที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย ปัญหาทั่วไป บางครั้งอุปกรณ์ของคุณไม่ปรากฏชื่อสถานที่หรือชื่อถนน หรือขึ้นที่อยู่ผิดสำหรับสถานที่นั้น นอกจากนี้คุณอาจมีปัญหาในการนำทาง เพราะอุปกรณ์บอกให้ไปออกทางที่ปิดการใช้งานไปแล้ว ไปใช้ถนนที่ไม่มีอยู่จริง หรือใช้เส้นทางที่ไม่เข้าท่า ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุเหล่านี้ 1. การติดตั้ง GPS ที่ไม่ถูกต้อง: การติดตั้ง GPS ติดตามรถที่ผิดวิธีสามารถนำไปสู่ข้อมูลที่ไม่แม่นยำได้2. ความผิดพลาดของผู้ใช้: ความผิดพลาดของมนุษย์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยมาก เช่น ปล่อยอุปกรณ์จีพีเอสติดตามให้อยู่ในโหมดคำนวณหาตำแหน่งปัจจุบันโดยอิงจากตำแหน่งก่อนหน้านี้3. ชั้นบรรยากาศ: สัญญาณอาจได้รับผลกระทบจากกิจกรรมที่ไม่ปกติในชั้นบรรยากาศโลก4.
GPS Tracking คือระบบของการใช้ดาวเทียมเพื่อติดตามตำแหน่ง ซึ่งตัว Tracker จะถูกติดตั้งเอาไว้กับยานพาหนะหรือสิ่งใด ๆ ก็ตามที่เคลื่อนไหวได้ เช่น รถ คน สัตว์ เป็นต้น เมื่อติดตั้งเรียบร้อยก็จะใช้ จีพีเอสติดตาม ในการหาพื้นที่ตำแหน่งของ Tracker นั้นว่าอยู่ตรงไหน ตรงนี้เองที่มักถูกนำมาใช้กับธุรกิจด้านโลจิสติกส์เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจว่าสิ่งที่ควบคุมไม่ได้อย่างการขนส่งนี้ จะอยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา และนี่คือ 3 เหตุผลที่บอกว่าทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ควรติดตั้ง GPS Tracking เข้ากับยานพาหนะ 1. บอกตำแหน่งของยานพาหนะแบบ Real-time ด้วยความสามารถของระบบ GPS Tracking สามารถตรวจสอบตำแหน่งได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงสามารถบอกตำแหน่งของตัวยานพาหนะได้ชนิด Real-time ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนแล้ว อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง ช่วยให้รู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วถ้ามี ตำแหน่งล่าสุดอยู่ตรงจุดไหนในแผนที่ 2. วางแผนการทำงานหรือปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม –
GPS Tracking คือ อุปกรณ์นำทางและติดตามความเคลื่อนไหวของยานพาหนะ คน สัตว์และสิ่งของที่มีค่า โดยจะมีการระบุตำแหน่ง บันทึกข้อมูลการเคลื่อนที่เพื่อส่งไปยังผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือหรือระบบอื่น ๆ ที่อยู่ในอุปกรณ์ GPS Tracking นั้น ๆ ปัจจุบันมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์และการขนส่งที่ต้องใช้ยานพาหนะในการขนส่งสินค้าและรถโดยสารขนาดใหญ่ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรถบรรทุกและรถโดยสารเนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ติดตั้งเพื่อใช้ในการควบคุมความเร็วและระยะเวลาพักผ่อนของพนักงานขับรถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ในขณะที่ธุรกิจโลจิสติกส์ใช้การติดตั้ง GPS Tracking ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มศักยภาพและการแข่งขันที่มากขึ้นได้ ดังเช่น ลดเวลาในการเดินทาง ในอดีตที่ไม่มีระบบ GPS นั้น การเดินทางส่งสินค้าระหว่างจังหวัดจะใช้เวลานาน บางครั้งอาจเกิดจากพนักงานขับรถหลงทาง ไม่ชำนาญเส้นทาง แต่เมื่อมีระบบ GPS ก็จะมีการคำนวณระยะทางให้พนักงานขับรถเลือกเดินทางที่ GPS กำหนดเพื่อใช้ระยะทางที่สั้นที่สุดและใช้เวลาน้อยที่สุด ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิง เมื่อรถขนส่งเดินทางในระยะทางที่สั้นที่สุดแล้ว ค่าใช้จ่ายในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะลดลงไปด้วย
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้เกี่ยวกับระบบ GPS Tracking ก่อนที่จะติดตั้งก็คือ การปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงระบบ GPS Tracking จะต้องมีวิธีใช้ตรงตามที่กฎหมายกำหนดในเบื้องต้นด้วย รถที่มีคุณลักษณะต่อไปนี้ ต้องติดตั้งระบบ GPS Tracking – รถขนส่งผู้โดยสารทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง – รถบรรทุกตั้งแต่ 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 10 เส้น ขึ้นไป ทั้งในส่วนไม่ประจำทางและการขนส่งส่วนบุคคล • เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถจะต้องมีความคาดเคลื่อนในแนวราบไม่เกิน 20 เมตร จำนวนชั่วโมงการขับรถมีค่าความละเอียดไม่เกิน 1 นาที วันเวลาที่บันทึก ชื่อ-นามสกุลของผู้ขับขี่ หรือเลขที่ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถที่ได้จากระบบบ่งชี้ผู้ขับรถ มีลักษณะการทำงานของเครื่องเป็นแบบ Real-time • มีระบบบันทึกการใช้งานของรถไว้ที่เครื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า